1ลำน้ำนั้นไหลมาจากทิศตะวันตก ทอดตัวเลื้อยเลี้ยวเข้าเขตหมู่บ้าน แบ่งแผ่นดินออกเป็นสองส่วน 2ฟากฝั่งสองข้างมีบ้านเรือนตั้งอยู่เป็นหย่อม ๆ สลับกับสวนยางพารา และสวนผลไม้ ริมคลองด้านหนึ่งมีทางเดินลาดลึกจนถึงหาดทรายใต้คุ้งน้ำที่หักโค้งเป็นข้อศอก 3ลำน้ำยามแล้งตื้นเขิน แต่สายน้ำยังคงเอื่อยรินสม่ำเสมอ 4หลุมพอต้นใหญ่งอกงามชิดตลิ่ง 5แผ่กิ่งก้านสาขาทอดเงาไปยาวไกลปกคลุมหาดทรายและลำน้ำช่วงนั้นด้วยเงาเย็นร่มรื่น
6วันแล้งร้อนอย่างร้ายกาจแผ่นดินระยิบระยับด้วยเปลวแดด 7สวนยางพาราสลัดใบร่วงโปร่งโล่ง 8เปลือยกิ่งก้านอาบแดดอยู่เคร่งขรึม 9เงียบเหงาลมสงัด 10ใบไม้ใบหญ้าไม่ไหวติง 11มะพร้าวยอดด้วนยืนตายสงบงันอยู่เหนือฝั่ง 12สรรพสิ่งเหมือนยอมสยบต่อฤทธิ์ร้ายของตะวันกล้าในยามเที่ยง
13พวกเขามากันห้าคน 14เดินนำหน้าเป็นชายตัวโตกว่าเพื่อนตามด้วยเพื่อนชายอีกสามคน 15เหลือรั้งท้ายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กไม่สวมเสื้อ 16แก้มของเธอแดงก่ำเพราะพิษแดดพอ ๆ กับหัวไหล่และร่องหลังที่เปล่าเปลือย 17ทั้งหมดย่ำย่างมาบนพื้นทางที่ปกคลุมด้วยใบยางแห้งเสียงดังสวบสาบ 18เมื่อถึงปากทางลงท่าน้ำซึ่งสูงชันก็ปล่อยตัวถลาร่อนลงอย่างรวดเร็ว 19เด็กชายโห่ร้องขึ้นเสียงดังก่อนจะพากันเข้าแอบร่มหลุมพอใหญ่ 20เหนื่อยหอบเหมือนหมาวิ่งตามพระ
21“น้ำใสจัง” เด็กชายร่างเล็กพูดขึ้น 22“วันนี้เรามาถึงก่อนเพื่อน ไอ้พวกนั้นยังไม่มา” อีกคนว่า 23“ใช่ เราชนะมันวันนี้” 24“เป็นไงแกน่ะ เหนื่อยซีท่า” เด็กชายตัวโตหันไปพูดกับเด็กหญิง 25“อยากตามมาดีนัก บอกว่าร้อนก็ไม่เชื่อ” 26เสียงของเขาขุ่นขึ้ง 27เด็กหญิงเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่ง เอาตีนถูทรายไปมาเป็นร่องลึก 28เธอไว้ผมทรงม้าตัดเรียบเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉากครอบหน้าผาก 29ต่ำลงมาคือแนวคิ้วโก่งและขนตาเรียวงอนที่กะพริบถี่ ดวงตาทั้งคู่กลมโตเป็นประกาย 30มองดูแต่ไกลเหมือนตุ๊กตาตัวใหญ่ไม่สวมเสื้อ 31ผิวของเธอสีเดียวกับเด็กผู้ชายคนโต
32“เล่นน้ำกันดีกว่า” ใครคนหนึ่งว่า 33“วันนี้เล่นอะไรดีล่ะ มีเสียงขอความเห็น” 34“เล่นดำปักกันเอาไหม” คนโตพูด 35“เอาก็เอา” 36แล้วเด็กชายทั้งหมดก็รีบถอดเสื้อผ้าผลัดกองไว้บนเนินทรายเหลือตัวล่อนจ้อน 37เด็กชายร่างเล็กออกวิ่งนำหน้าพุ่งโผนลงในน้ำดังตูมใหญ่ 38เพื่อน ๆ กระโดดตามไปติด ๆ 39“แกเล่นที่ตื้น ๆ นะ อย่าตามลงมาอีก เดี๋ยวจมน้ำตาย” เด็กชายคนโตหันมากำชับ 40แล้ววิ่งกระโดดน้ำตามพรรคพวกไป ทิ้งเด็กหญิงไว้บนหาดทรายเพียงลำพัง 41พวกเด็กผู้ชายว่ายน้ำไปรวมอยู่กลางคลองซึ่งมีความลึกแค่คอ แต่ตรงที่ลึกที่สุดของลำน้ำช่วงนี้คือวังวนเหนือหาดทรายใต้ต้นหลุมพอนั่นเอง 42ที่ตรงนั้นเป็นคุ้งกว้างน้ำจึงไหลวนอ้อยอิ่ง 43เหนือผิวน้ำขึ้นไปประมาณสองวามีหลุมพอกิ่งใหญ่ยื่นต่ำออกมาแผ่คลุม 44มันอยู่กึ่งกลางของวังวนพอดี 45เด็กชายคนโตว่ายน้ำตัดคลองไปอีกทางหนึ่ง 46แล้วขึ้นไปหักกิ่งไม้เล็ก ๆ ติดมือกลับมาเขาว่ายย้อนมาหาเพื่อน ๆ ที่รออยู่พร้อมกับตะโกนบอกเสียงดัง 47“เล่นดำปักกันเลยนะ กูจะดำลงไปก่อน” 48พูดจบก็ผลุบหายลงไปพร้อมกิ่งไม้ในมือ 49สักครู่จึงโผล่พรวดขึ้นมา 50“เอาเลย ใครแน่จริงหาให้พบ” เขาร้องบอกเป็นการเปิดเกม 51คนอื่น ๆ รีบดำลงไปทันที 52การเล่นดำปักจึงเริ่มแต่บัดนั้น
53สายน้ำเอื่อยริน ใสจนแทบนับเม็ดกรวดทรายได้ 54เด็กหญิงเลื่อนตำแหน่งต่ำลงมาจนเท้าทั้งสองแช่อยู่ในน้ำ มองดูเด็กชายเล่นดำปักกันอย่างหงอยเหงา 55เวลาพวกนั้นว่ายน้ำพร้อม ๆ กันผิวน้ำจะกระเพื่อมหนุนตัวเข้าซัดฝั่งเป็นระลอก 56พวกเขากำลังสนุกเต็มที่ 57เมื่อใครอีกหนึ่งดำลงไปปักกิ่งไม้ซ่อนไว้ที่ก้นคลอง คนอื่น ๆ จะดำลงไปค้นหาและถ้าใครดำพบแล้วถอนขึ้นมาได้ก็มีสิทธิไล่ตีเพื่อน ๆ 58จากนั้นก็ดำลงไปปักซ่อนไว้อีก 59ผุดดำผุดว่ายจนตาแดงขุ่นเป็นสีเลือด
60มีเสียงคึก ๆ ดังมาจากท่าลงน้ำ 61เธอหันไปดูเห็นเด็กชายอีกสี่คนวิ่งพุ่งลงมาอย่างแรง ตามด้วยเสียงกู่ร้องเบิกบานใจ 62พวกที่มาใหม่รีบถอดเสื้อผ้าลุกลี้ลุกลนแล้ววิ่งไปสมทบกับพวกที่อยู่ในคลองเสียงดังตูมตาม 63ผืนน้ำแตกกระจายพุ่งละอองขึ้นเป็นฟองฝอย 64เพียงอึดใจลำคลองสายนั้นก็สำสลอนไปด้วยเด็กชายตัวเปล่าเปลือย
65เด็กหญิงยังนั่งอยู่ที่เดิม คอยกวาดทรายเข้าหาตัวแล้วพูนตะล่อมขึ้นเป็นคันยาวต่อกันสี่ด้านในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 66“ฉันจะทำบ้าน” เธอพูดกับตัวเอง 67แววตาเป็นประกายเฟื่องฝันในขณะกวาดทรายเข้ามาเพิ่ม 68ทรายเปียกน้ำสะดวกต่อการตกแต่ง 69ไม่นานนักเธอก็ถูกล้อมด้วยคันทรายที่พูนขึ้นเป็นรูปตาราง 70มองดูเหมือนนาแปลงเล็ก ๆ ที่มีแนวทรายเป็นขอบคัน 71“ตรงนี้ห้องนอน” เธอพูดขึ้นอีกแล้วพูนทรายขึ้นเป็นคันใหม่แบ่งตารางใหญ่ออกสองส่วน 72“ตรงนี้เป็นห้องครัว นั่นห้องพ่อกับแม่” 73เมื่อกำหนดว่าตรงไหนเป็นห้องเด็กหญิงจะพูนทรายให้เป็นคันสูงขึ้น สมมุติว่าคือฝากั้น 74เธอทำอย่างนี้เรื่อย ๆ จนได้ห้องเล็ก ๆ สามห้อง เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ถอยออกมานั่งยอง ๆ จ้องมองสิ่งที่เพียรก่อสร้างอย่างจุใจ
75มือและเท้าของเด็กหญิงเปรอะด้วยเม็ดทรายเปียกน้ำ 76ในซอกเล็บมีดินทรายเข้าไปอัดแน่นเป็นแนวดำ 77เธอเอียงคอไปมา ปั้นปากเครียดเหมือนนายช่างซึ่งกำลังจ้องมองอาคารในระหว่างการก่อสร้าง 78ตรงไหนที่เห็นว่ายังไม่ชอบใจเธอก็เข้าไปเสริมแต่ง 79กระถดไปมาอยู่พักหนึ่งจึงหันไปทางกลุ่มเด็กผู้ชายอีกที
80“อยู่นี่ ๆ ไม้อยู่นี่” 81เธอเห็นเด็กชายคนหนึ่งชูกิ่งไม้ขึ้นเหนือหัวแล้วดำหายลงไปในน้ำ 82เด็กหญิงกลับมามองบ้านดินทรายอีกครั้งแล้วยิ้มขึ้นอย่างตื่นเต้น 83“ฉันจะปลูกต้นไม้ด้วย” เธอว่า พร้อมกับวิ่งออกไปยังแนวป่าชายหาด 84หักกิ่งไม้ติดมือมาสองสามกิ่งมีดอกเข็มป่าสีแดงอยู่ด้วยสามดอก 85“ตรงนี้ต้นมะม่วง” เธอพูดขึ้นเมื่อปักกิ่งไม้ลงบนพื้นทรายชิดแนวคันดิน 86“ตรงนี้ต้นกระท้อน” 87เธอปักกิ่งไม้ลงไปอีกหนึ่ง 88“ตรงนี้ต้นอะไรดีนะ อ๋อ ปลูกต้นทุเรียนดีกว่า” 89ว่าแล้วเธอก็ปักลงไปอีกในมือเหลือเพียงดอกเข็มป่าสีสดใส 90“ตรงนี้หน้าบ้าน” เธอว่าพร้อมกับกวาดทรายจนเรียบ 91“หน้าบ้านจะต้องปลูกดอกไม้ ฉันจะปลูกดอกไม้เงาะสีแดงนี่” 92ดอกเข็มป่าที่มีกิ่งติดอยู่ด้วยถูกปักลงเป็นแถวในบริเวณนั้น 93ตอนนี้บ้านบนพื้นทรายของเธอจึงมีพุ่มไม้เขียวแดงขึ้นเป็นหย่อม ๆ 94เด็กหญิงกระโดดเข้าไปนั่งในช่องสี่เหลี่ยมอีกทีพร้อมกับปรบมือเบา ๆ 95“สวยจัง ๆ” เธอพูดอย่างดีใจ
96ตะวันเที่ยงลอยคว้างตรงหัว เงาหลุมพอจึงหดสั้นเข้ามาทุกที 97เด็กผู้ชายที่เล่นดำปักเริ่มแตกกลุ่มออกมาข้างนอก 98แต่ละคนมือเท้าซีดเซียว ปากเขียวเหมือนยอดหวายลิง 99เด็กชายท่าทางซุกซนที่มากับกลุ่มหลังวิ่งขึ้นบนหาด ผ่านบ้านดินทรายของเด็กหญิงอย่างหมิ่นเหม่ 100เจ้าของบ้านตกใจร้องลั่น 101“อย่าเหยียบ นี่บ้านฉัน” 102“ไหนไหน บ้านอะไร นั่นมันทรายต่างหาก” 103เขาหยุดชะงัก 104“ดอกไม้สวยจัง ขอดอกซิ” 105เด็กชายเข้ามาใกล้ กระชากเข็มป่าติดมือไปอย่างรวดเร็ว 106เด็กหญิงลุกพรวดออกจากช่องสี่เหลี่ยม 107“อย่าเอาไป ดอกไม้ของฉัน เอามานี่ ๆ” 108เด็กชายวิ่งวนไปรอบ ๆ บ้านดินทรายยื่นดอกไม้แกว่งไกวหลอกล่อ แยกเขี้ยวยิงฟันเหมือนลูกลิง 109“อยู่นี่ ๆ มาเอาซี” เขาร้องท้า 110แล้ววิ่งข้ามแนวทรายไปมา 111เด็กหญิงร้องลั่นเมื่อเห็นบ้านดินทรายของเธอราบเรียบกับรอยตีน 112“ไอ้บ้า แกล้งฉันทำไม” 113เธอแทบร้องไห้ หันรีหันขวางด้วยความขุ่นเคือง 114“ไล่ให้ทันซิ ไล่ให้ทันจะให้มันสิบขวด ให้หนวดสิบเส้น” เด็กชายร้องยั่ว แล้ววิ่งลงน้ำ ฉีกดอกไม้สีแดงยับเยินก่อนจะขว้างทิ้งให้ลอยไปตามน้ำไหล
115เด็กหญิงทรุดนั่งบนผืนทราย 116น้ำตาไหลซึม 117เธอมองดูบ้านดินทรายที่พังราบเพราะรอยเท้าด้วยความเสียหาย 118ดอกเข็มป่าที่เหลือจมทรายเสียเกือบมิด 119เธอค่อย ๆ ดึงขึ้นมาอย่างทะนุถนอมปัดทรายออกเบา ๆ 120“ทำใหม่อีกก็ได้” เธอบอกตัวเอง 121แล้วเริ่มต้นคุ้ยทรายขึ้นมาใหม่ 122ครั้งนี้เปลี่ยนจากที่เดิมมาเป็นริมน้ำเด็กหญิงคุ้ยทรายจากใต้น้ำขึ้นมากองจนท่วมขา 123ขณะขมวดคิ้วครุ่นคิด 124“ทำเจดีย์ดีกว่า” เธอคิดได้แล้ว และรีบตะล่อมทรายขึ้นเป็นทรงสูงใช้มือตบแต่งอย่างระมัดระวัง 125เม็ดทรายเปียกน้ำเกาะตัวกันแน่น 126เด็กหญิงพยายามโปะแปะจนกลายเป็นรูปเจดีย์เล็ก ๆ มียอดเรียวแหลม 127“เหมือนเจดีย์ในวัดเลย เหมือนจริง ๆ” 128เธอชื่นชมกับผลงานชิ้นใหม่จากนั้นก็เริ่มก่อกองทรายให้เป็นรูปทรงเดียวกันอีกกองหนึ่ง
129เด็กชายกลุ่มนั้นวิ่งทะยานขึ้นจากน้ำดังฉ่าฉาว 130ผิวน้ำกระเพื่อมม้วนตัวเป็นคลื่นใหญ่ทบทยอยเข้าหาฝั่งติด ๆ กัน 131มันซัดเซาะกองทรายรูปเจดีย์ของเด็กหญิงจนเว้าแหว่ง และหนุนเนืองเข้าซ้ำเติมจนกองทรายน้อย ๆ ทลายราบ 132“พังอีกแล้ว” เด็กหญิงร้องลั่นมองตามเด็กผู้ชายที่มุ่งหน้าไปทางวังน้ำวน 133เด็กชายตัวโตที่ชอบดุเธอวิ่งนำหน้า 134เขาพาพวกไต่ขึ้นไปบนกิ่งหลุมพอเป็นพรวน 135ปากก็ร้องเสียงดังลั่น 136“ใครแน่จริงขึ้นมาเลย มาโดดน้ำกันดีกว่า 137พวกที่อยู่ข้างล่างวิ่งตามขึ้นไปอีก ต่อแถวกันเป็นพรวนเหมือนฝูงลิง 138กิ่งหลุมพอโน้มต่ำเรี่ยผิวน้ำเพราะความหนัก 139มันแกว่งไหวไปมาจนน่ากลัว 140“นึง สอง สาม” เด็กชายตัวโตนับขึ้น 141พอสิ้นเสียงนับก็ทิ้งตัวลงในน้ำดังตูม 142ผืนน้ำราบเรียบถูกแรงกระแทกแตกกระจายเป็นฟองพรายพร้อม ๆ กับที่กิ่งไม้สะบัดเหวี่ยงอย่างแรงกวาดพวกเด็ก ๆ ที่เหลือให้ร่วงตามลงมาขี่คอกันชุลมุน 143วังวนปั่นป่วนแทบจะเป็นตม 144เด็กหญิงเลิกสนใจเด็กพวกนั้นอีกต่อไป 145เธอหันมาคุ้ยทรายขึ้นมาใหม่ 146แล้วลงมือก่อเป็นรูปเจดีย์อีก 147ริ้วคลื่นที่โหมกระหน่ำมาไม่ยั้งหยุดทำให้เธอไม่อาจก่อขึ้นได้ง่าย ๆ 148กระนั้นเด็กหญิงก็ไม่สิ้นความพยายาม
149“ทำอะไรน่ะ” เสียงถามดังจากที่ใกล้ ๆ 150เธอเงยหน้าขึ้น พบเด็กชายร่างเล็กที่มาด้วยกันยืนจ้องด้วยความสงสัย 151“ทำไมไม่ไปเล่นกับพวกนั้น” เด็กหญิงถาม 152แล้วก้มหน้าก่อกองทรายต่อ 153“น้ำลึก ไม่กล้าเล่น” เด็กชายตอบ 154เขาทรุดนั่งมองดูเด็กหญิงอย่างสนใจ 155“แกจะทำอะไร เห็นทำอยู่นานแล้ว” เขาถามอีก 156“ทำเจดีย์” เด็กหญิงพูด 157เธอกำลังแต่งยอดเจดีย์ทรายให้เรียวแหลม แต่แล้วคลื่นใหญ่จากวังวนก็โถมเข้าเซาะจนแหว่งไปอีกด้าน 158“พังหมดแล้ว” เด็กชายว่า 159“ไม่หมด” เด็กหญิงพูด 160“มันยังอยู่” 161“เดี๋ยว มันก็พังอีก” 162เด็กชายขยับเข้ามาอีกนิด 163เด็กหญิงไม่พูดอะไรแต่ย้ายที่นั่งจากหาดทรายลงไปในน้ำ 164เธอนั่งหันหน้าเข้าหาฝั่งกางขาออกคร่อมกองทรายไว้ 165คราวนี้เธอก่อมันได้สะดวกขึ้นเพราะมีตัวเองเป็นเครื่องกำบังคลื่น 166กลุ่มเด็กที่ปีนขึ้นบนกิ่งหลุมพอกระโดดน้ำถี่แรง 167เกมนี้ พวกเขาสนุกสุดเหวี่ยง 168วังวนยิ่งกระฉอกไหวปั่นป่วนก่อคลื่นเข้าซัดฝั่ง ระลอกแล้วระลอกเล่า 169เด็กหญิงยังไม่สิ้นความตั้งใจ 170แม้ว่าเจดีย์ทรายของเธอต้องพังลงไปหลายครั้งหากแต่เร่งมือหนักขึ้น
171“พังอีกแล้ว พังหมดเลย” เด็กชายพูดอีก เมื่อเจดีย์น้อยถูกคลื่นกวาดลงราบเรียบ 172“ไม่หมด” เด็กหญิงยืนยัน 173“อะไรกัน ทรายไปหมดแล้วยังไม่ฟัง” 174เด็กชายไม่เข้าใจ 175“ทรายยังไม่หมด มันยังอยู่” เด็กหญิงย้ำ 176“บอกว่าหมดแล้ว มันไหลไปหมดแล้วเห็นไหม” 177“ไม่จริง” เด็กหญิงเถียง 178เธอคุ้ยทรายขึ้นมาอีก 179“ทรายยังอยู่เห็นไหมนี่” 180เธอกอบทรายให้ดู 181“เขาบอกว่ามันมากับน้ำ ทรายมากับน้ำทุกวัน มันไม่เคยหมด เราต้องก่อขึ้นใหม่” เธอพูดอย่างมั่นใจ
182“แล้วก็พังอีก ก็พวกนั้นยังเล่นน้ำอยู่นี่ เดี๋ยวคลื่นก็มาอีก” 183“เราก็ก่อขึ้นอีก ถ้าเราก่อให้กองใหญ่และสูงเท่าเจดีย์ที่ในวัดมันก็ไม่พัง คลื่นมาก็ไม่พัง ถึงพังก็ไม่หมด” เด็กหญิงพูด นัยน์ตาเปล่งประกาย 184“ทำให้กองใหญ่” 185เด็กชายร่างเล็กทวนคำ 186เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น 187“เออ จริง ถ้าเราทำให้สูงเท่าเจดีย์ในวัดมันก็ไม่พัง” 188เขาพยักหน้าหงึก ๆ แล้วก้มลงขุดทรายบ้าง 189มือของเขาใหญ่และแข็งแรงกว่าจึงคุ้ยทรายขึ้นได้ทีละมาก ๆ 190“เราทำให้มันสูงเท่าเจดีย์เลยนะ” 191“ฮืมม์” เด็กหญิงพยักหน้า 192“แล้วฉันจะเอาดอกไม้เงาะสีแดงไปเสียบที่ยอดของมันด้วย” 193น้ำเสียงของเธอตื่นเต้น 194แล้วทั้งสองก็หัวเราะขึ้นพร้อมกันดัง ๆ
195ลำน้ำยังไหลเรื่อยริน 196กลุ่มเด็กชายยังไม่เลิกเล่นกระโดดน้ำ 197ตะวันเที่ยงทรงกลดร้อนแรงอยู่บนฟ้า สาดแสงอาบท้องน้ำประกายเจิดจ้า และริมหาดทรายนั้นเด็กสองคนกำลังเร่งก่อกองทรายเป็นการใหญ่